Ear game

          มาฝึกฟังเสียงอยางสนุก และทดสอบการฟังของตัวเอง ผ่านการเล่นเกมกันดีกว่า..........

Ear game

 

 

          จำนวนผู้เล่น              2 คนหรือมากกว่า (ผลัดกันเล่น)

          อุปกรณ์                     

          - เครื่องดนตรีอะไรก็ได้ที่สามารถให้ระดับเสียงสูง ต่ำ อย่างชัดเจน เช่น เปียโน กลอง ขลุ่ย เป็นต้น (และหากเด็กโตหน่อยสามารถแยกแยะเสียงได้แล้ว อาจเพิ่มระดับเสียงกลางเข้าไปด้วย)

          - ผ้าปิดตา

          - บล็อกไม้

          วิธีเล่น
          1. ก่อนอื่นต้องตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้เริ่มก่อน โดยผู้เริ่มจะเป็นคนสร้างกับดักและเล่นเสียงให้อีกฝ่ายเป็นคนฟัง   

 สร้างกับดักของเรา

 

           2. เริ่มเกมโดยผู้ฟังยืนปิดตา อยู่ที่จุดเริ่มต้นผู้เล่นเสียงกำหนดเสียง เพื่อกำหนดทิศทาง เสียงสูงไปทางขวา เสียงต่ำไปทางซ้าย เสียงกลางเดินตรงไป

           3. เมื่อผู้ฟังได้ยินเสียงให้เดินไปตามเสียงที่กำหนดโดยผ่านกับดักทั้งหมดไม่ชนให้ล้ม ให้ได้ 

           4. หากทำสำเร็จก็จะเป็นผู้ชนะ อาจมีการนับแต้มกันเพื่อเพิ่มความสนุก

           5. สลับตำแหน่งกันบ้าง

 

โฉมหน้าผู้ชนะ 

 

 

DIY BY TOEY & RICH NO.1

          หลังจากที่ได้ซื้อคีย์บอร์ดมาใหม่ ก็เริ่มมองหาโต๊ะที่วางเพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นกันอย่างสบาย แต่หาเท่าไรๆ ก็ไม่ถูกใจ หรือถ้าถูกใจ ราคามีสูงเกินไป จึงตัดสินใจว่าจะลงมือสร้างที่วางกันเองทั้งๆ ที่ทำไม่เป็น แต่เพื่อเด็กๆ เราสามารถ

           ครูฤทธิ์จึงจัดการไปซื้อไม้ไผ่และลองประกอบดูในช่วงวันหยุด...........

 

 

 

 

 

          แล้วส่งรูปมาให้ดู ดูจากรูปมันก็สวยดีนะเนี่ย แต่เมื่อมาเห็นของจริง เอ่อ.........มันหน้าตาแปลกๆ นะ แถมโยกเยกด้วย ไม่ได้แน่ๆ ถ้าเด็กๆ เล่นมีหวังกระจายยยยย!!!!

 

 

 

 

           ครูเตยและครูฤทธิ์จึงจัดการรื้อออกใหม่ทั้งหมด เนื่องจากว่าไปนั่งศึกษาวิธีการทำมาจากอินเตอร์เน็ตกันเลยทีเดียว เมื่อ 2 แรงแข็งขันช่วยกันทำ ผลที่ออกมาจึงได้ที่วางคีบอร์ดที่มีรูปร่าง หน้าตาเป็นแบบนี้ และเมื่อลองเขย่า ก็ไม่โยกเยกด้วย......เย้เย้เย้

 

 

 

 

นี่คือโฉมหน้าผู้ใช้รุ่งานนแรกที่คอนเฟิร์มคุณภาพการใช้งานจริง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

        อยากฝากถึงเด็กๆ ทุกคนว่า เราไม่ได้เกิดมาแล้วทำทุกอย่างเป็น แต่ถ้าหากเราตั้งใจจะทำ มีความพยายาม และที่สำคัญเราสนุกกับสิ่งที่เราทำแล้ว ผลที่ได้ก็ไม่ไกลเกินที่เราต้องการ.......

 

          โปรดติดตาม DIY BY TOEY & RICH ตอนต่อไปดูว่าจะสร้างอะไรมาใช้กับดนตรีอีกบ้าง ไม่นานเกินรอ หรือ ใครมีไอเดียแนะนำ เสนอมาโลด (ขอแบบไม่ธรรมดานะ)......

 

 

เล่นเพลงได้ เล่นเพลงง่าย ไสตล์ Music Support Learning(MSL) ของ MSL Music house

          เพลงที่ดูเหมือนจะยาก แต่สามารถทำให้ดูเป็นเพลงที่เล่นง่ายได้ แม้เด็กเล็กๆ หรือคนที่เล่นดนตรีไม่เป็นเลย วันนี้เลยหยิบเพลงฝากเลี้ยง ของพี่เจ เจตริน ที่คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก มาใส่ในเครื่องดนตรีเปียโนดู   ถ้าใครอยากเล่นเพลงได้  ใครอยากเล่นเพลงเป็นลองนำไปฝึกดูนะ

 

 

 

           ใครที่เล่นได้แล้วลองส่งมาให้ชมให้ฟังบ้าง หรืออยากขอเพลงอะไรกับเครื่องดนตรีอะไร หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเล่น สามารถติดต่อมาได้ที่ facebook สามห่วงพัฒนาการ & Music Support Learning



ที่มาของสระเอือ

           ลองมาทำความรู้จักกับสระในอีกรูปแบบที่สนุกสนาน และอยากให้นำไปใช้ดู เด็กๆ จะเข้าใจการเขียนรูปของสระผ่านบทเพลง

 

         อยากรู้ไหมว่าสระเอือมีความเป็นมาอย่างไร? ลองฟังเพลงจังหวะสนุกๆ ของ สระเอือ ดู  แล้วจะรู้.......         

         

       

เพลง สระ เอือ

เนื้อร้อง โดย ครูฤทธิ์

ทำนองและดนตรี โดย ครูเตย

ขับร้อง โดย ครูเตย

ซุปเปอร์แมน ชูแขน 2 ข้าง

เหาะไปบนอ่าง ข้างหน้าเจอไม้
หลบไม่ทัน หวดเข้าตาซ้าย (ซ้ำ)
ซุปเปอร์แมนหน้าหงาย....... กลายเป็น สระเอือ

 

 

 

ลิขสิทธิ์ โดย

MSL MUSIC HOUSE

 

 

     

กิจกรรมแนะนำ

         1. ลองให้เด็กๆ ขยับร่างกายตามเพลงหรือสร้างบทบาทสมมติกับเพลงดูก็ได้

         2. ลองให้เด็กๆ ฝึกเขียนรูปของสระตามเพลงกันดีกว่า ดังนี้

 

 

 

ซุปเปอร์แมนชูแขน 2 ข้าง  =

เหาะไปบนอ่าง =

ข้างหน้าเจอไม้ =



กลายเป็นสระเอือ  =

 

 

 

 

 



ท่องอวกาศไปกับยานอวกาศตัวโน้ต

     การทำความคุ้นเคยกับตัวโน้ต ผ่านการเคลื่อนไหวร่างกาย การผจญภัยไปในอวกาศกับยานอวกาศตัวโน้ต โดย สมมติเรื่องราวสถานการณ์ต่างๆ เพื่อเป็นการจดจำตัวโน้ตผ่านสีสันที่ตนเองได้ระบาย

     ตัวอย่างเรื่อง เช่น เด็กๆ ขึ้นยานอวกาศตัวโน้ตลำแรกได้รับมอบหมายให้ไปสำรวจดวงจันทร์ แต่ระหว่างทางได้แวะลงที่ดาวเสาร์ไปเจอกับอุกาบาศเข้า  จากนั้นจึงยานอวกาศตัวโน้ตลำที่สองให้ไปสำรวจดางอังคารแต่น้ำมันไม่เพียงพอทำให้ต้องเดินทางช้าเพื่อประหยัดน้ำมัน  ยานอวกาศตัวโน้ตลำที่สามจึงถูกส่งไปช่วยเหลือแต่ขณะนั้นเกิดฝนดาวตกจึงต้องเดินทางด้วยความระมัดระวัง เป็นต้น

 

    

          เนื้อหาที่ได้จากเรื่องราว เด็กๆ จะได้เรื่องตัวโน้ตและค่าโน้ตผ่านการลำดับเหตุการณ์

 

 

  

 

ผลงานของ น้องเคนจิ

ลองฝึกให้เด็กๆ มีโอกาสเล่าเรื่องตามจินตนาการของตัวเองดูบ้าง (ใครแปลออกช่วยบอกที????)

 

ลิขสิทธิ์ โดย

MSL MUSIC HOUSE

เรียนดนตรีตามแนวคิดสามห่วงพัฒนาการ

  
       จาก แนวคิดสามห่วงพัฒนาการ  เราแบ่งความสำคัญของดนตรี  ออกเป็น
 
     จังหวะ  เป็นพื้นฐานของดนตรีทั้งหมด

     สัญลักษณ์ทางดนตรี  เมื่อรู้ถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ทางดนตรีก็สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้
 
    เครื่องดนตรี  หมายถึงเครื่องดนตรีทุกชนิดที่ต้องการเล่น
 

 

ภาพประกอบ

 

 

       ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการเรียนรู้ทางดนตรี การสอนดนตรีตามแนวคิดสามห่วงพัฒนาการนั้นจึงเต็มไปด้วยการเรียนที่สนุก ครอบคลุมเนื้อหาทางดนตรีที่เหมาะสมกับทุกวัย อีกทั้งยังเพิ่มเติมในส่วนของความคิดสร้างสรรค์และความกล้าแสดงออกอีกด้วย

 

 

 

 

เล่นดนตรีกับ ฉ ฉิ่ง

     เมื่อฉ ฉิ่ง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีไทย มาสร้างความสนุกสนานโดยการนำเสียงเครื่องดนตรีมาสร้างเป็นบทเพลง ลองดูสิว่าเด็ก ๆ จะเลียนเสียงตามได้เหมือนหรือไม่?

เพลง ฉ ฉิ่ง

เนื้อร้อง โดย ครูฤทธิ์

ทำนองและดนตรี โดย ครูเตย

ขับร้อง โดย ครูเตย

 

เสียงฉับฉิ่งฉับฉิ่งฉับ

บวกกับกรับกระดั๊บกระแด๊ก

ฉันเคาะกระดับกระแดก

เธอนั้นตีฉิ่งฉับฉิ่งฉับ

ลิขสิทธิ์เพลง โดย

MSL MUSIC HOUSE

     กิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับเพลง ฉ ฉิ่ง เด็กๆ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับตัวอักษร ฉ ฉิ่งได้ผ่านการเล่นต่างๆ เช่น  การเขียนในตัว ฉ  การระบายสีรูปภาพ ฉ  การขีดคำที่มี ฉ และการเล่นเครื่องดนตรีตามจังหวะโดยดูเนื้อเพลงและสัญลักษณ์

เล่นเครื่องดนตรีตามจังหวะ

ย ยักษ์ชวนน้องๆ ออกกำลัง

          เพลงสำหรับออกกำลังในห้องเรียนเพลงใหม่ ที่นำพยัญชนะตัว ย ยักษ์ ออกมาชักชวนให้เด็กๆ ออกกำลัง นอกจากความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกว่า ย ยักษ์นั้นน่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินอีกต่อไป

เพลง ย ยักษ์

เนื้อร้อง   โดย   ครูฤทธิ์

                                                                                        ทำนองและดนตรี   โดย   ครูเตย

                                                                                        ขับร้อง   โดย   ครูเตย

ย ยักษ์  เขายืนยักไหล่

ส่ายเอวไป  แล้วก็ส่ายเอวมา

ย้ายตัวไปข้างหน้า  ย้ายตัวไปข้างหน้า

ยักไหล่ซ้าย ขวา  ส่ายเอวส่ายเอว

ยักไหล่ซ้ายขวา ส่ายเอวส่ายเอว

ลิขสิทธิ์เพลง โดย

MSL MUSIC HOUSE

เรียนดนตรี กับ Cooking Music Rhythm ภาคสอง

Concept

                Cooking Music Rhythm  คือ การนำจิตนาการมาผสานกับเครื่องดนตรีทั้งหลาย  เนื่องจากเด็กวัย 2-4 ปี มักมีจิตนาการของตนเองเพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นจริง จึงมักเห็นเด็กเล่นสมมุติบทบาทต่างๆ  บ้างก็เป็นเจ้าหญิง    บ้างเป็นเจ้าชาย  เป็นคนพายเรือ  เป็นนั่นเป็นนี่  และเมื่อเราอยากให้เขาเรียนรู้เรื่องดนตรี  เราเพียงใส่เรื่องราวต่างๆ เข้าไปในเครื่องดนตรี  เท่านี้เด็กจะไม่รู้สึกว่าเป็นการเรียนแต่มันคือการได้เล่นอุปกรณ์ใหม่ๆ  ในโลกที่เขาเป็นผู้กำหนดเอง

จ่ายตลาด

                ก่อนทำอาหารเราก็ต้องคิดก่อนว่าจะทำอะไรทานกันดี  แล้วจึงไปหาซื้อวัตถุดิบกัน  สมมุติว่าอยากกินส้มตำไทยใส่ปู  ก็ต้องคิดว่ามีเครื่องอะไรบ้าง แล้วพากันไปเครื่องหยิบเครื่องดนตรีหรือบล็อคไม้ที่จะน้ำมาทำเป็นมะละกอบ้าง  พริกบ้าง  กระเทียม  ปู  ถั่วฝักยาว  น้ำตาลปี๊บ  น้ำปลา  ฯลฯ

เตรียมอุปกรณ์

                ครก  สาก  มีด  เขียง (ที่สมมุติขึ้น) เสียงเพลง  จังหวะช่วงการปรุงเตรียมไว้ให้พร้อม

Cooking

                เริ่มบรรเลงเสียงหัน  สับ  ตำ  เป็นจังหวะไปตามบทเพลง พร้อมปรุงรสต่างๆ ให้คลุกเคล้าเข้ากันจนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเอาใส่จานตั้งโต๊ะพร้อมรับประทาน

อิ่มอร่อย

                เด็กๆ  จะได้เต็มอิ่มไปกับการใช้จินตนาการสร้างสรรค์เรื่องราวพร้อมกับเสียงเพลง นอกจากนี้เด็กๆ ยังเรียนรู้ถึงการปรุงแต่งรสชาติอาหาร เรียนรู้ความชอบของตนเองว่าชอบหวาน  เปรี้ยว  เผ็ด  รู้จักลำดับการทำอาหาร  ผัก  เครื่องปรุงต่างๆ  และยังอร่อยไปกับทำนองที่สร้างสรรค์จากฝีมือของเขาเอง

                ลองนำไปเล่นดูนะ...

สนุกกับดนตรีและภาษา

           เราจะสร้างสรรค์กิจกรรมดนตรีร่วมกับการสอนภาษาไทยได้อย่างไร เป็นคำถามที่หลายคนถามมา เราสามารถใช้เครื่องดนตรีและวิธีการเล่นง่ายๆ ประกอบบทเพลงเพื่อช่วยให้เด็กๆ จำเนื้อหาได้ง่ายและเร็วขึ้น  ลองมาดูตัวอย่างจากเพลง ท ทหาร

       

คำแนะนำ         

กีตาร์ ตีเป็นคอร์ด

เปียโน เล่นโน้ตสลับนิ้วซ้าย ขวา

กลอง ตีตามจังหวะ



       

พยัญชนะภาษาไทย ท ทหาร(สามห่วงพัฒนาการ)

         ดนตรีนอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้วยังสามารถสร้างความรู้ไปพร้อมๆ กันๆ ได้อีกด้วย  หากเรารู้จักจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเหมาะสมกับการเรียนรู้ตามวัยของเด็ก การสอนภาษาไทยเช่นกัน หากต้องการให้เด็กได้รู้จักตัวอักษรภาษาไทย  บทเพลงที่ช่วยจำเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นตัวช่วยในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี

          บทเพลงที่ดี สำคัญไฉน? บทเพลงที่ดีนั้นนอกจากจะทำให้เด็กได้รู้เรื่องและเข้าใจในสิ่งที่จะสอนแล้ว ยังควรจะต้องมีสาระสอดแทรกเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เสริมเข้าไปด้วย ดังนี้

 เพลง ท หทาร

                                                                                             

เนื้อร้อง   โดย   ครูฤทธิ์

                                                                                        ทำนองและดนตรี   โดย   ครูเตย

                                                                                        ขับร้อง   โดย   ครูเตย

ประเทศไทย    ใช้รั้วเป็นคน  

ท ทหารทุกคน     คือรั้วของชาติ 

ปลอดภัยใน    ทุกโอกาส 

เพราะรั้วของชาติ    ปกป้องดูแล

         นอกจาก เด็กๆ จะรู้จักตัวอักษร "ท ทหาร" แล้ว เด็ก ๆ ยังรู้เพิ่มอีกว่า  ท ทหารทุกคน คือรั้วของชาติ ซึ่งคอยปกป้องดูแลทุกคนในประเทศนั้นเอง

เรียนดนตรีจากสิ่งรอบตัว

          การเรียนดนตรี เราสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผู้ปกครองหลายคนมาปรึกษาว่า ตัวเองไม่มีความสามารถทางดนตรีเลย  แต่อยากให้ลูกมีจิตใจที่รักในเสียงดนตรีจะทำอย่างไรดี งั้นลองมาดูกันว่าเราสามารถทำอะไรกันได้บ้าง

   
          วิธีที่1 ลองใช้เสียงอันไพเราะของตัวเองให้เป็นประโยชน์ดูสิ

               เวลาครอบครัวเป็นเวลาที่มีคุณค่า หาเพลงที่ชอบมาซักเพลงร่วมร้องเพลงกัน เช่น เพลงช้าง (ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงที่ร้องออกมานะ) แค่คุณพ่อร้องให้เสียงต่ำ คุณแม่ร้องให้เสียงสูง แล้วให้คุณลูกร้องเสียงปกติ แล้วลองสลับหน้าที่กันดู

          สิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ คือ การใช้เสียงในแบบต่างๆ ทั้งของตนเองและคนอื่น

          วิธีที่2 หม้อ ชาม ตะเกียบ แก้วน้ำ ของในครัวขนมาตั้งวงดนตรีกันเถอะ

                 เครื่องดนตรีไม่มี ก็ไม่ง้อใครเราเอาอุปกรณ์ในครัวมาทำเป็นวงดนตรีได้ โดยนำหม้อใบใหญ่มาแทนกลอง ตีจังหวะที่เท่าๆ กัน (หรืออาจนำหม้อขนาดต่างกัน 2ใบก็ได้) ชามกับตะเกียบมาคู่กัน เป็นเสียงที่สร้างสีสันจะเคาะเป็นจังหวะหรือเคาะตามใจฉัน ส่วนแก้วน้ำก็เอามาทำเป็นไมโครโฟนซะ(ถ้าลองใช้แก้วที่ต่างกันก็จะได้แสียงที่ออกมาต่างกัน)

          สิ่งที่เด็กได้เรียนรู้ คือ การสนุกกับการสร้างสรรค์เสียงต่างๆ

   ลองนำวิธีที่แนะนำไปทำดูนะ

สอนดนตรีนอกกรอบ

          "ทุกวิชาย่อมมีครู ไม่เว้นแม้แต่วิชาดนตรี คนที่เล่นดนตรีเก่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะสอนคนเก่งเสมอไป" การสอนตามหนังสือตำราต่างๆนั้นเด็กสามารถเล่นเป็นเพลงได้ก็จริง แต่ถามเด็กไหมว่าเค้าเข้าใจและสนุกกับการเรียนดนตรีจริงหรือ?

         

          ครูดนตรีที่ดีย่อมจะต้องมีหน้าที่เข้าใจ และปรับเทคนิควิธีการสอนให้เข้ากับเด็กแต่ละคน (ไม่ใช่แค่แต่ละวัย) เพราะถึงแม้เด็กจะอยู่ในช่วงอายุที่ใกล้เคียงกัน แต่มีวิธีการเรียนรู้ที่ต่างกัน ครูต้องรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบ ต้องมียุทธวิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในหัวมากมาย เพื่อที่ทำให้เด็กเรียนดนตรีอย่างสนุก และมีความสุข

          การสอนดนตรีนอกกรอบเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการสร้างสรรค์ และภูมิใจในตัวเองกับการที่เค้าสามารถเล่นเพลงได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก เด็กโต หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็ตาม ซึ่งการสอนสอนดนตรีนอกกรอบ หมายถึง การสอนที่ไม่ใช่เพียงสอนตามตำรา แต่เป็นการสอนอย่างไรก็ได้ที่ทำให้เด็กสามารถเล่นเป็นเพลง เข้าถึงอารมณ์ของเพลง  รู้ถึงสัญลักษณ์ต่างๆของเพลงในขณะเล่น แต่สิ่งสำคัญคือเด็กจะต้องรู้สึกมีความสุข อยากที่จะทำ ทำ ทำ อีกต่อๆ ไป

         

          "งั้น.......เรามาเรียนดนตรีนอกกรอบกันเถอะ "

จับตัวละครในนิทาน....มาขับขานเป็นเสียงดนตรี

          เบื่อไหม???กับการอ่านนิทานธรรมดา ซ้ำไปซ้ำมาให้เด็กๆฟัง ทำไมไม่ลองทำนิทานเรื่องเดิมให้เป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ กันล่ะ

          นอกจากจะให้เด็กๆ ฟังนิทานแล้ว ลองให้เค้าได้มีโอกาสจับใจความจากเรื่อง โดยการถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงดูสิ รับรองว่าสนุกอย่าบอกใครเลย

ตัวอย่างเพลงจากนิทานเรื่อง พินอคคิโอ

เพลงพินอคคิโอ 

                                                                                                             เนื้อร้อง   โดย   น้องน้ำขิงและครูฤทธิ์

                                                                                                             ทำนองและดนตรี   โดย   ครูเตย

                                                                                        ขับร้อง   โดย   น้องน้ำขิงและน้องน้ำมนต์

         " พินอคคิโอ พินอคคิโอ จมูกย๊าว ยาว เดินก็ได้ วิ่งก็ได้ ทำมาจากไม้.....เป็นตุ๊กตา"

ลิขสิทธิ์เพลง โดย

MSL MUSIC HOUSE

การเรียนเปียโน

          การเรียนเปียโนนั้นจะต้องใช้ทั้งมือ นิ้ว ทั้งไอคิวพอสมควร  เพราะต้องใช้สองมือช่วยกันบรรเลงให้เกิดเสียง  อีกทั้งยังต้องใช้สมองทั้งสองซีกคอยควบคุมมือซ้ายและมือขวาให้เล่นได้ประสานกัน  มือซ้ายเป็นผลจากการทำงานของสมองซีกขวาเอาไว้เล่นคอร์ดคลอดทำนองควบคุมจังหวะ  ส่วนมือขวาเป็นผลจากการทำงานของสมองซีกซ้ายที่เอาไว้ระบายความคิดสร้างสรรค์  ทำให้สมองทั้งสองโตเท่าๆ กัน

การเรียนรู้ =  เรียนรู้  จดจำ  และนำไปใช้

          เด็กที่เพิ่งคลอดออกมายังใช้ร่างกายตัวเองได้ไม่คล่องก็ให้เขาค่อยๆ ซึมซับผ่านประสาทสัมผัสทางหูทางตาไปก่อน  ไม่ต้องรีบร้อนให้ขึ้นนั่งโต๊ะเรียนเปียโนจริงๆ จังๆ  เพราะอาจเป็นการสร้างทัศนคติที่ไม่ดีแก่เด็กได้

          รอถึงอายุ 2 ขวบ นั่งได้  ขยับนิ้วได้ดีขึ้น  จึงให้เขาลองลูบๆ คลำๆ เปียโน ให้เด็กเกิดความสงสัยเกี่ยวกับเปียโนว่ามีชื่อเรียกว่าอะไร  แท่งสีขาวเรียกอะไร  แท่งสีดำเอาไว้ใช้ทำอะไร  แล้วค่อยๆ ให้จดจำออกเสียง "ฮำ" ทีละเสียงให้ชำนาญทั้งด้านการฟังและการวางมือ

          หลังจากนั้นจึงสอนให้เรียงคอร์ด(มือซ้าย) ร้อยทำนอง(มือขวา) ตรึกตรอง(การทำงานของสมอง) ถึงเสียงที่ออกมาว่าไพเราะหรือไม่  อย่างไหนเรียกว่าเพราะ  อย่างไหนเรียกว่าไม่เพราะ  โดยอาจให้เด็กเรียนรู้จากบทเพลงที่เขาชื่นชอบก่อนไล่ไปทีละเพลง  ทีละแนว  จนเรียนรู้ได้หลายๆ เพลงแล้ว  เขาก็จะรู้เองว่าเขาชอบเพลงแนวไหน

สรุป...  เรียนรู้ด้วยการฟัง  จดจำด้วยการทำ  และนำไปใช้อย่างสร้างสรรค์

เตรียมพร้อมก่อนสนุกกับเสียงดนตรี

          ก่อนจะสนุก เราควรเตรียมพร้อมทั้งกายและใจกันซะก่อน ลองนอนหงายกับพื้น หรือ นั่งหลับตาในท่าสบาย แล้วฟังเพลง ณ เณร  นี้ดู ลองค่อยๆ หายใจเข้า-ออก ช้าๆ

เพลง ณ เณร

เนื้อร้อง   โดย   ครูฤทธิ์

                                                                                        ทำนองและดนตรี   โดย   ครูเตย

                                                                                        ขับร้อง   โดย   ครูเตย

ลิขสิทธิ์เพลงโดย

MSL MUSIC HOUSE

ลิขสิทธิ์เพลงโดย

MSL MUSIC HOUSE