พัฒนาลูกน้อยด้วยไท้เก็กเป็นอย่างไร หลายคนอาจสงสัย แต่หลายคนที่เคยเรียน หรือพอจะรู้จักจากสื่อต่างๆ
คงจะพอนึกภาพออกว่าไท้เก็กนั้นนำมาพัฒนาลูกน้อยได้อย่างไร
ก่อนอื่นคงต้องพูดถึงที่มาที่ไปของไท้เก็กให้ฟังกันคร่าวๆ
ว่ามีหน้าตาอย่างไร เกิดขึ้นจากอะไร
(ตามความเข้าใจของผู้เขียน
และขออภัยท่านผู้รู้ไว้ที่นี้ด้วยจ้า)
ไท้เก็กนั้นเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า
เป็นการผสมผสานระหว่างด้านที่ต่างกันทั้งสอง เช่น มืดกับสว่าง ขาวกับดำ
อ้วนกับผอม หนักกับเบา ความต้องการกับความไม่ต้องการ เมื่อไท้เก็กเกิดการผสมผสานกันความว่างเปล่าจึงเกิดเป็นความมี ความมีไปสู่ความว่างเปล่ากลับไปกลับมา เขียนไปเขียนมาก็เริ่มงง เอาเป็นว่าเราจบในส่วนที่ลึกซึ้งไว้เพียงเท่านี้ดีกว่า ส่วนใครที่อยากศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับจุดกำเนิดของไท้เก็กอาจตามไปศึกษาได้จากแนวคิดของลัทธิเต๋า ถ้าเป็นหนังสือก็ชื่อ เต๋า เต็ก เก็ง
ทีนี้เรามาพูดกันในส่วนของการนำไปใช้น่าจะใกล้เคียงกับหัวข้อของเรามากกว่า การรำมวยไท้เก็กนั้นเชื่อกันว่าผู้ที่คิดค้นวิชานี้ขึ้นมาคือนักพรตในลัทธิเต๋าชื่อว่า
จาง ซาน ฟง หลายคนคงรู้สึกคุ้นๆ
กับชื่อนี้ ท่านเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาวมาก
ตามที่ได้ยินมาก็มากกว่า 200 ปี
จึงเป็นเหตุให้ผู้เฒ่าทั้งหลายที่อายุมากๆ
หันมาเรียนรำมวยไท้เก็กกันมากเพราะเชื่อว่า ทำให้สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์
และมีอายุยืนยาวเหมือนท่าน จาง ซาน ฟง
ส่วนคนอายุน้อยๆ
ที่เรียนรำมายไท้เก็กก็มีความเชื่อเช่นนี้เหมือนกัน ว่าทำให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และมีอายุยืนยาว เพราะส่วนมากแล้ววัยรุ่น
หรือผู้ใหญ่ที่ยังอายุไม่มากนั้นจะรำมวยเพื่อรักษาโรคทางกายของตนเอง หลายคนรักษาโรคที่เจ็บป่วยได้ หลายคนก็ไม่
แต่หลายคนรักษาโรคของตนเองหายแล้วยังรำไท้เก็กต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอจนมีฝีมือที่ก้าวหน้าอยู่ในระดับอาจารย์ก็มาก ส่วนในเด็กเล็กๆ
นั้นไม่ค่อยมีใครฝึกกันเนื่องจากยังไม่เห็นความสำคัญ แถมท่ารำยังเชื่องช้าน่าเบื่ออีกด้วย จึงมีน้อยคนนักที่จะเรียนด้วยความสนใจของตนเอง
มีแนวคิดหนึ่งในการฝึกของไท้เก็กที่กล่าวว่า “จงเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเด็ก” เพราะเด็กเคลื่อนไหวโดยใช้กำลังจากท้องน้อย การส่งพลังจากท้องน้อยขึ้นมาตามหลัง ผ่านสู่ลำแขนและปล่อยออกทางฝ่ามือ
คงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ใหญ่เนื่องจากหลังยาว แขนก็ยาว
เวลาหายใจก็หายใจแค่ปอดไม่ได้หายใจลงไปถึงท้องน้อย พลังจึงน้อย
เวลาปล่อยพลังออกจากท้องจึงหมดแรงเสียก่อนที่พลังจะเดินทางไปถึงฝ่ามือ แต่ถ้าเป็นเด็ก ตัวก็สั้น
แขนก็สั้น มือก็กลม หายใจเข้าทีลงไปถึงท้องน้อย หายใจออกทีเลือดลมแล่นไปทั่วร่างกาย
จึงแทบไม่ต้องบังคับพลังจากลมปราณให้ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะว่ามันเป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว
การพัฒนาลูกน้อยด้วยไท้เก็กจึงหมายถึง
การที่เราพยายามรักษาส่วนดีที่ติดตัวเขามาตามธรรมชาติให้อยู่กับเขาไปนานๆ และนำส่วนดีนั้นๆ มาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเราจะพูดถึงในตอนต่อๆ ไป
ครูฤทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น